[Verb to be + past participle] คือรูปประโยคของประโยคชนิดที่เรียกกันว่า Passive voice หรือที่ภาษาไทยเรียกว่ากรรมวาจก มีลักษณะคือเอากรรมของประโยคขึ้นก่อนเพื่อให้เป็นผู้ “ถูกกระทำ” นั่นเอง ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น “The cat was bit.” (แมวถูกกัด) เป็นต้น – แต่ทำไมเราถึงต้องเขียนประโยค Passive voice ล่ะ ในเมื่อภาษาอังกฤษเองก็เขียนประโยค Active voice ได้นี่นา เอาล่ะ วันนี้ DailyEnglish จะมาเล่าให้ฟังถึงเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงต้องใช้ประโยคกรรมวาจกกันจ้า
ไม่ทราบแน่ชัดว่าผู้กระทำ (ประธานของประโยค) เป็นใคร
ในบางกรณี เราไม่รู้จริงๆ ว่าประธานของประโยคนั้นเป็นใครหรือเป็นอะไร จึงต้องใช้ประโยคกรรมวาจกเพื่อละประธานของประโยค (ที่เราไม่รู้) ออกไป และพูดถึงกริยาที่เกิดขึ้นอย่างเดียว ยกตัวอย่างเช่น หมาตัวหนึ่งถูกยิงมา เราวิ่งมาเจอมันแล้วต้องการจะบอกเล่าต่อ แน่นอนว่าเราไม่รู้ว่าใครคือคนถือปืนมายิงเจ้าหมาตัวนี้กันแน่ เราจึงต้องพูดว่า
The dog was shot.
(หมาตัวนั้นถูกยิง)
แต่หากเรารู้ว่าผู้กระทำคือใครส่วนใหญ่แล้วก็จะใช้เป็นกัตตุวาจก (Active voice) มากกว่า อย่างเช่นถ้าเรารู้ว่าไมเคิลคือคนที่ยิงหมาตัวนั้น เราก็จะพูดไปเลยโดยไม่ต้องละประธานว่า
Michael shot the dog.
(ไมเคิลยิงหมาตัวนั้น)
ไม่ต้องการระบุประธานของประโยค
การละประธานนั้นนอกเหนือจากสาเหตุว่าเราไม่รู้ว่าผู้กระทำเป็นใครแล้ว ยังละได้โดยจงใจเพื่อให้เห็นว่าเราต้องการเน้นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมากกว่าจะเน้นว่าใครเป็นผู้กระทำหรือว่าพยายามจะเลี่ยงถึงการพูดถึงประธาน (ที่มีเพศ) เพื่อรักษาความเป็นกลาง
ในส่วนของการละประธานเพื่อที่จะเน้นการกระทำและผลนั้น จะยกตัวอย่างได้ เช่น หากพายุฝนเข้าแล้วทำให้รั้วบ้านเสียหาย แต่ผู้พูดและผู้รับสารเองก็รู้อยู่แล้วว่ามีพายุฝน ก็สามารถพูดว่า
The fence was destroyed
(รั้วถูกทำลาย)
โดยที่ทั้งผู้พูดและผู้ฟังก็รู้อยู่แล้วว่าอะไรทำให้ให้รั้วพังแต่ต้องการเน้นไปที่รั้วว่ามันพัง
ในส่วนของการใช้ประโยคกรรมวาจกเพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงประธานอย่างจงใจนั้นพบได้ในงานเขียนประเภทวิชาการ เพราะงานประเภทนี้จะไม่นิยมเขียนด้วยการใช้คำสรรพนาม (I หรือ We) ได้ เนื่องจากจะทำให้งานดูไม่เป็นทางการ จึงต้องละประธานของประโยค และส่วนใหญ่ก็จะเขียนด้วยประโยคกรรมวาจกนี่เอง ยกตัวอย่างเช่น
The argument was proofed to be wrong.
(ข้อโต้แย้งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าผิด)
อ่านแบบละเอียดยิบ: สรุปหลักการใช้ Passive Voice
เห็นไหมล่ะคะว่าจริง ๆ แล้วการใช้ passive voice เนี่ย มันก็มีจุดประสงค์หลัก ๆ ของมันอยู่ ถ้าอยากจะรู้ว่าเมื่อไหร่เราควรจะใช้ประโยคชนิดนี้ ข้อควรปฏิบัติที่ดีที่สุดก็คือพยายามอ่านให้มาก อ่านสารหลาย ๆ ประเภท เพื่อที่เราจะได้สังเกตได้ว่าเมื่อไหร่ควรใช้ passive voice หรือ เมื่อไหร่ควรใช้ active voice นะคะ
คอมเมนต์ได้เลย!