หลายคนคงจะสงสัยกันกว่าทำไมเวลาเราอ่านภาษาอังกฤษ เจ้า a, an, the นี่โผล่มาในแทบจะทุกประโยค มันสำคัญอย่างไร มีหน้าที่อะไร แปลได้ว่าอย่างไร เราก็ไม่รู้ เนื่องจากเราไม่ใช่เจ้าของภาษา เจ้าสิ่งที่เรียกว่า Articles นี้จึงไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่ามันสำคัญอะไร และถึงตัดออกเราก็อ่านประโยคเหล่านั้นได้อยู่ดี แต่สำหรับเจ้าของภาษามันไม่ใช่อย่างนั้นนะจ๊ะ
แล้ว Articles นั้นมันสำคัญไฉน?
Articles ถ้าจะเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ เลยมันก็คือ “คำนำหน้านาม” นั่นเอง กล่าวกันโดยจริงแล้ว คำนามในภาษาอังกฤษส่วนใหญ่ไม่อาจปรากฏขึ้นโดด ๆ ได้ต้องมีเจ้า articles นี้คอยเป็นตัวนำมาก่อนเสมอ โดยที่ตัวมันเองจะแบ่งออกได้เป็นสองชนิดก็คือ article ที่ไม่เฉพาะเจาะจง (indefinite) และ article ที่เฉพาะเจาะจง (definite)
Articles ที่ไม่เฉพาะเจาะจงก็ได้แก้ A และ An ซึ่งเมื่อเมื่อคำนามถูกนำด้วย article เหล่านี้ จะหมายความว่าเป็นสิ่งที่พูดถึงโดยทั่วไป ไม่ได้เฉพาะเจาะจง อย่างเช่น I need a boy (ฉันต้องการผู้ชาย) คือหมายความว่าผู้ชายคนไหนก็ได้ทั้งโลกนี้ล่ะ ไม่ได้เจาะจงว่าต้องการใครคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ
แล้วเมื่อไหร่ใช้ A เมื่อไหร่ใช้ An กันล่ะ?
‘A’ นั้นเอาไว้หน้าคำนามที่เป็นคำนามเอกพจน์ (singular noun) ที่เป็นนามนับได้ (countable noun) และขึ้นต้นด้วยพยัญชนะที่มีเสียงพยัญชนะ เช่น a book, a cat, a dog ฯลฯ โดยความหมายก็จะเป็นอย่างที่อธิบายไปข้างต้น คือไม่เฉพาะเจาะจง เป็นสิ่งทั่ว ๆ ไป
ส่วน ‘An’ นั้นเอาไว้นำหน้าคำนามที่เป็นคำนามเอกพจน์ (singular noun) ที่เป็นนามนับได้ (countable noun) แต่ต้องเป็นคำที่ขึ้นต้นด้วยเสียงสระ A, E, I, O, U หรือพยัญชนะที่ออกเสียงสระเท่านั้น อย่างเช่น An old book, an unreliable source เป็นต้น โดยที่ความหมายก็เหมือนกับการใช้ ‘A’ นั่นเอง
ถ้าอย่างนั้นแล้ว The มีไว้ทำอะไรล่ะ?
แน่นอนว่าเราเห็นคำว่า The บ่อยกว่าคำใด ๆ เวลาที่อ่านภาษาอังกฤษ ไม่มีทางที่เราจะไม่เจอสิ่งนี้ เนื่องจากคำว่า The นั้นมีคุณสมบัติพิเศษ เพราะเมื่อนำไปนำหน้าคำนามตัวไหน คำนามตัวนั้นก็จะมีความหมายเฉพาะเจาะจงขึ้นมาทันที เช่น ‘I need the boy’ (ฉันต้องการผู้ชายคนนั้น) ผู้ชายที่พูดถึงนี้ไม่ใช้ผู้ชายทั่ว ๆ ไปคนไหนก็ได้แบบ ‘I need a boy’ อีกต่อไปแล้ว ต้องเป็นผู้ชายที่ – ในสถานการณ์นั้น – ผู้พูดและผู้ฟังรับรู้ด้วยกันว่าเป็นคนไหน หรือว่าก่อนหน้านี้เคยมีการพูดถึงผู้ชายคนนี้มาก่อนแล้ว
แล้วเมื่อไหร่ถึงใช้ The ล่ะ?
ก่อนอื่น คำว่า The ใช้นำหน้าคำศัพท์ที่พยางค์หน้าออกเสียงได้ทั้งเสียงสระและเสียงพยัญชนะ แต่คำที่มีพยางค์แรกเป็นเสียงสระจะอ่านออกเสียง The ว่า ‘ดิ’ ส่วนคำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะออกเสียงว่า ‘เดอะ’ ปรกติ หลักการใช้ Article ชนิดนี้ต้องนำคำนามที่ตั้งใจให้มีการชี้เฉพาะลงไป ซึ่งจะแบ่งได้แบบนี้
- ใช้คำนามที่เป็น บุพบทวลี (prepositional phrase)
เช่น ‘The woman in red dress is walking.’ (ผู้หญิงที่อยู่ในชุดสีแดงกำลังเดินอยู่) ตรงนี้ชัดเจนว่าเราไม่ได้จะหมายถึงผู้หญิงทั่วไป แต่จะหมายถึงผู้หญิง “คนนั้น” ที่ใส่ “ชุดสีแดง” ดังนั้นต้องนำด้วย The
- ใช้นำคำนามเมื่อมีการกล่าวถึงสิ่งนั้นเป็นครั้งที่สอง
เช่น ‘She own a car and a bike. The car is broken down today so she rides the bike to work.’ (เธอมีรถยนต์หนึ่งคนกับจักรยานหนึ่งคน วันนี้รถยนต์(คันนั้น)เสียเธอจึงขี่จักรยาน(คันนั้น)มาทำงาน)
- ใช้นำชื่อเฉพาะของสถานที่ต่าง ๆ เช่น หมู่เกาะ เทือกเขา ห้องสมุด เป็นต้น
เห็นไหมละว่า Article นั้นแท้จริงแล้วมีความสำคัญต่อการใช้ภาษาอังกฤษไม่น้อยเลย การเลือกใช้ก็ต้องเป็นไปตามจุดประสงค์ของรูปประโยคที่เราสร้างด้วย ดังนั้นอย่าคิดว่ามันไม่สำคัญเชียวนะจ๊ะ หากจะเลือกใช้ก็ต้องเลือกดูให้ดีก่อนว่าอันไหนมันควรจะใช้อันไหน เพื่อจะได้ไม่สื่อสารผิดพลาดจ้า
คอมเมนต์ได้เลย!