ในปัจจุบัน นักศึกษาปริญญาตรีจบใหม่บางส่วนเลือกที่จะเรียนต่อในระดับปริญญาโททั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติให้กับตนเองในการสมัครงาน แต่นักศึกษาบางคนกลับพยายามหางานทำเพื่อสั่งสมประสบการณ์ให้เป็นข้อได้เปรียบ เมื่อมาถึงขั้นตอนการสมัครงานสิ่งที่ทุกคนต้องทำเหมือนกันคือการกรอกใบสมัครงานและเขียน resume 

resume คืออะไร และมีความสำคัญต่อการสมัครงานอย่างไร? วันนี้ทาง DailyEnglish ได้เตรียมข้อมูลที่เกี่ยวกับการเขียน resume ที่ดีเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้งานให้กับผู้อ่านทุกคน เชิญติดตามได้เลยครับ

resume (เร-เซอ-เม)
คือจดหมายสมัครงานที่มีประวัติการศึกษาและการทำงานของผู้สมัครเป็นภาพรวม โดยทั่วไปแล้วจะมีความยาวประมาณ 1-2 หน้า แต่ถ้าให้ดีไม่ควรเกิน 2 หน้านะ

มีเอกสารอีกบางชนิดที่เพื่อนๆอาจเคยได้ยินกันมาบ้างคือ

curriculum vitae (CV ซีวี)
นิยมเรียกสั้นๆว่า “ซีวี” เลยนะครับ มีหน้าที่คล้ายกับ resume แต่ต่างกันตรงที่ความยาว ตัว CV จะมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประวัติการเรียน การทำงาน ผลงาน ความสามารถและประสบการณ์อื่นๆ ทำให้มีความยาวประมาณ 3-4 หน้า

cover letter (คัฟเฟอ เล็ดเดอร์)
เป็นจดหมายที่ใช้แนะนำตัว มักจะแนบมาพร้อมกับ resume

สำหรับการสมัครงานเราควรเตรียมเอกสารไป 2 ชนิดคือ

  • cover letter – เพื่อชักจูงให้ผู้คัดเลือกอ่าน resume ของเรา
  • resume – เพื่อให้เราได้รับการสัมภาษณ์งาน

หลักการเขียน cover letter

1. สั้น ได้ใจความสำคัญ (concise)
2. ยืนยันการสมัครในตำแหน่งงาน (confirmation)
3. บอกเหตุผลว่าทำไมต้องการงานนี้ (reason)
4. บอกถึงคุณค่าของตนและประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับ (benefits to company)
5. เรียกร้องให้เข้ารับการสัมภาษณ์ (request)

องค์ประกอบของ resume

1. ประวัติส่วนตัว (personal details)
– ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร อีเมล์ (อาจเพิ่มวันเดือนปีเกิด สัญชาติ หรือสถานะการสมรสครับ)

2. วัตถุประสงค์ (objective)
– เขียนตำแหน่งที่ต้องการสมัครหรือโอกาสที่กำลังมองหาอยู่ ไม่ควรเกิน 2 บรรทัด

3. ประสบการณ์ทำงาน (work experience)
– เรียงลำดับจากปัจจุบันไปอดีต เน้นหนักไปที่เนื้องานในปัจจุบัน

4. ประวัติการศึกษา (education)
– จากมหาวิทยาลัย และโรงเรียนมัธยม เรียงจากปัจจุบันไปยังอดีต

5. ความสนใจ (personal interests)
– กิจกรรมนอกตำราเรียน เช่นการทำงานเพื่อสังคม สมาชิกชมรมต่างๆ

เคล็ดลับ: แนะนำให้พิมพ์เอาดีกว่าเขียนด้วยมือครับ บริษัทส่วนใหญ่จะมองว่าการเขียนด้วยลายมือจะดูไม่เป็นมืออาชีพ แล้วยังเก็บรูปแบบ resume ไว้ใช้กับการสมัครงานกับบริษัทอื่นได้อีกด้วย

ผู้บริหารมักไม่มีเวลามากพอที่จะอ่านใบสมัครของทุกคนหรอกนะครับ  การเขียน cover letter ที่น่าสนใจและตรงประเด็นสามารถช่วยให้เรามีโอกาสสูงที่จะได้รับการพิจารณาครับ อันนี้สำคัญมากเลย อย่าไปเน้นประวัติประสบการณ์จนลืมให้ความสำคัญกับ cover letter นะครับ ที่สำคัญสมัยนี้ไม่ว่าสมัครงานที่ไหนก็ต้องใช้ resume ภาษาอังกฤษทั้งนั้น ควรฝึกฝนวิธีเขียน resume อย่างถูกหลักการด้วยนะ

ทาง DailyEnglish จะนำเสนอบทความน่าสนใจที่จะบอกเคล็ดลับในการสมัครงานให้กับทุกคนแน่นอนครับ อย่าลืมติดตามกันด้วยนะ รับรองน่าสนใจไม่แพ้คำศัพท์เลยทีเดียว

คอมเมนต์ได้เลย!