คงเป็นเรื่องที่ยุ่งยากไม่น้อยนะครับ หากเมื่อเราจะถามอะไรก็ต้องมานั่งเปลี่ยนจากประโยคบอกเล่าให้เป็นประโยคคำถามทุกครั้ง แต่จะง่ายกว่าไหมครับหากว่าเราพูดประโยคบอกเล่าออกไปแล้วตบด้วยสองสามคำสั้นๆ ประโยคนั้นก็กลายเป็นประโยคคำถามขึ้นมา การทำแบบนั้นเราเรียกว่า Question tag
Question tag คือ รูปประโยคคำถามย่อๆที่ถูกนำมาต่อท้ายประโยคบอกเล่า เพื่อให้ประโยคนั้นกลายเป็นประโยคคำถาม หรือเพื่อให้ผู้ฟังได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็น ซึ่ง Question tag นี้จะใช้ในภาษาพูดเท่านั้นนะครับ
*** ถ้าประโยคหลักเป็นประโยคบอกเล่า (Affirmative Sentence) ส่วนของ Tag จะต้องเป็นประโยคปฏิเสธ (Negative Sentence)
*** ถ้าประโยคหลักเป็นประโยคปฏิเสธ (Negative Sentence) ส่วนของ Tag จะต้องเป็นประโยคบอกเล่า (Affirmative Sentence)
หลักการสร้าง Question tag มีดังต่อไปนี้
1. ประโยคบอกเล่าที่มีกริยาช่วย ( to be, V. to have, V. to do, will, would, shall, should, may, might, can, could) ให้ใช้กริยาช่วยเหล่านั้นมาทำเป็น Question tag ได้เลย เช่น
- Jack is from Spain, isn’t he?
- Mary can speak English, can’t she?
- He shouldn’t say things like that, should he?
- They aren’t funny, are they?
2. ถ้าประโยคหลักอยู่ในรูปของ present simple (รูปประโยค ประธาน + กริยาช่อง 1)ให้ใช้ do, does เข้ามาช่วยในการสร้างส่วนของ Tag เช่น
- She loves shopping, doesn’t she?
- They have a lot of friends, don’t they? (have ในประโยคไม่ได้ทำหน้าที่เป็นกริยาช่วยแต่ทำหน้าที่เป็นกริยาแท้ แปลว่า มี)
3. ถ้าประโยคหลักอยู่ในรูปของ past simple (รูปประโยค ประธาน + กริยาช่อง 2) ให้ใช้ did เข้ามาช่วยในการสร้างส่วนของ Tag เช่น
- You killed her, didn’t you?
- He ate the banana, didn’t he?
4. ถ้าประโยคหลักใช้ I’m ส่วนของ Tag ต้องใช้ aren’t I? แต่ถ้าประโยคหลักใช้ I’m not ส่วนของ Tag ต้องใช้ am I? เช่น
- I am attractive, aren’t I?
- I am not the last one, am I?
5. ถ้าประโยคที่มี This is, That is อยู่ในประโยคหลัก ส่วนของ Tag จะต้องใช้เป็น Isn’t it? หรือ Is it? (ขึ้นอยู่ว่าประโยคหลักอยู่ในรูปบอกเล่าหรือปฏิเสธ) เช่น
- This is my friend, isn’t it?
- That is a book, isn’t it?
6. ถ้าประโยคที่มี These are, Those are อยู่ในประโยคหลัก ส่วนของ Tag จะต้องใช้เป็น aren’t they? หรือ are they? (ขึ้นอยู่ว่าประโยคหลักอยู่ในรูปบอกเล่าหรือปฏิเสธ) เช่น
- These are pens, aren’t they?
- Those are not your shoes, are they?
7. ถ้าประโยคหลักเป็นประโยคคำสั่ง(แต่ไม่ใช่ในเชิงปฏิเสธหรือประโยคคำสั่งที่ไม่มี not) ส่วนของ Tag จะเป็น will you? หรือ won’t you? ก็ได้ เช่น
- Stop daydreaming, will / won’t you?
- Be quiet, will / won’t you?
8. ถ้าประโยคหลักเป็นประโยคคำสั่ง(ในเชิงปฏิเสธหรือประโยคคำสั่งที่มี not) ส่วนของ Tag จะเป็นต้องเป็น will you? เช่น
- Don’t stop running, will you?
*** อาจจำไปเลยก็ได้ครับว่าถ้าประโยคหลักเป็นประโยคคำสั่ง ส่วนของ Tag จะเป็น will you?
9. ถ้าประโยคหลักมี Let’s (Let us) ส่วนของ Tag จะต้องเป็น shall we? แต่ถ้าประโยคหลักมี Let+Objective+V.1 ส่วนของ Tag จะต้องเป็น will you?เช่น
- Let’s go, shall we?
- Let it go, will you?
การตอบคำถามประโยค Question tag
การตอบคำถามของประโยค Question tag นั้นเราจะใช้ Yes และ No เข้ามาช่วยในการตอบคำถาม
- ถ้าประโยคหลักเป็นประโยคบอกเล่า
- จะตอบ Yes เมื่อเราเห็นด้วยกับประโยคหลัก
- จะตอบ No เมื่อเราไม่เห็นด้วยกับประโยคหลัก
เช่น He can speak Thai, can’t he? (เขาพูดภาษาไทยได้,ใช่ไหม)
Yes, he can. (ใช่ เขาพูดภาษาไทยได้)
No, he can’t. (ไม่ เขาพูดภาษาไทยไม่ได้)
- ถ้าประโยคหลักเป็นประโยคปฏิเสธ
- จะตอบ No เมื่อเราเห็นด้วยกับประโยคหลัก
- จะตอบ Yes เมื่อเราไม่เห็นด้วยกับประโยคหลัก
เช่น You don’t like dog, do you? (คุณไม่ชอบสุนัข,ใช่ไหม)
No, I don’t. (ใช่ ฉันไม่ชอบสุนัข)
Yes, I do. (ไม่นะ ฉันชอบสุนัข)
ไม่ยากเลยใช่ไหมครับสำหรับเรื่องของ Question tag ถึงแม้เรื่องนี้จะไม่พบในภาษาเขียนหรือภาษาที่เป็นทางการ แต่สำหรับภาษาพูดเรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญเลยทีเดียวครับ ดังนั้นลองศึกษาและหัดเอาไปใช้บ่อยๆนะครับ
คอมเมนต์ได้เลย!