แหม! บังเอิญไปเจอเพื่อนเก่าชาวต่างชาติมา อยากจะพูดถึงเรื่องเก่าๆแทบขาดใจ แต่ไม่รู้จะพูดยังไงให้เขาเข้าใจดี ในเมื่อความรู้เรื่อง Tense ที่เราได้เคยเรียนมานั้นก็ได้ใส่กล่องปิดผนึกส่งคืนอาจารย์ไปหมดแล้ว แล้วงานนี้จะทำยังไงดีเนี่ย? ไม่ต้องกังวลไปครับ วันนี้ผมขออาสามาบอกเอง ว่าเราจะพูดคุยขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตได้ยังไง
ก่อนอื่นเราจะต้องมาฟื้นความจำเรื่อง Tense กันก่อนครับ แต่ถ้าจะให้มาพูดถึงทั้ง 12 Tense นี่ผมว่าคงสลบก่อนจะได้ฟื้นความจำ เอาเป็นว่าเรามาพูดถึง Tense ที่จะทำให้เราเล่าเรื่องราวในอดีตได้ก่อนดีกว่านะครับ นั่นก็คือ Past Simple Tense และ Present Perfect Tense ครับ
Past Simple Tense
เรามาเริ่มกันที่ Past Simple Tense ก่อนดีกว่าครับ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตรงไปตรงมาตามชื่อ Tense เลยครับนั่นคือ เป็นการพูดถึงอดีตแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ส่วนมากจะใช้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงในอดีตแล้ว โดยมีรูปประโยคคือ
Subject + Verb 2
ใช้พูดถึงเรื่องราวในอดีต เช่น
- I saw a movie last night.
ฉันดูภาพยนตร์เมื่อคืนนี้ (ตอนนี้ไม่ได้ดูแล้ว)
- I didn’t wash my car.
ฉันไม่ได้ล้างรถของฉัน (ตอนที่พูดรถอาจจะล้างไปแล้วก็ได้)
- We talked on the phone for thirty minutes.
เราคุยโทรศัพท์กันนานสามสิบนาที (ตอนนี้ไม่ได้คุยแล้ว)
- He played football yesterday.
เขาเล่นฟุตบอลเมื่อวานนี้ (วันนี้ไม่ได้เล่นแล้ว)
- We were tired after the trip.
พวกเราเหนื่อยหลังจากกลับจากทริป (ตอนนี้ไม่เหนื่อยแล้ว)
- Last year I went to England on holiday.
ปีที่แล้ว ฉันไปเที่ยวประเทศอังกฤษมาใน (ตอนที่พูดไม่ได้อยู่ที่ประเทศอังกฤษ)
- He took off his coat.
เขาถอดเสื้อคลุมออก (ตอนนี้ไม่ได้ใส่แล้ว เพราะถอดออกไปแล้ว)
Present Perfect Tense
ส่วน Present Perfect Tense นั่นจะใช้พูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ส่งผลมายังปัจจุบัน หรือปัจจุบันนี้เรื่องนั้นยังไม่จบ โดยมีรูปประโยคคือ
Subject + has/have + Verb 3.
ใช้พูดถึงเรื่องราวในอดีต และปัจจุบัน โดย Has ใช้กับประธานเอกพจน์ (He, She, It) และ Have ใช้กับประธานพหูพจน์ (I, You, We, They) เช่น
- The rain has stopped.
ฝนหยุดตกแล้ว (แต่ถนนยังเปียกอยู่)
- I have been here for three years.
ฉันอยู่ที่นี่มาสามปีแล้ว (ตอนนี้ก็ยังอยู่ที่นี่)
- A boy has played football since 4 o’clock.
พวกเด็กๆผู้ชายเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่สี่โมง (ตอนนี้ยังไม่เลิกเล่นเลย)
- I have known you for ten years.
ผมรู้จักคุณมาสิบปีแล้วนะ (ตอนนี้ยังรู้จักกันอยู่)
- Have you ever seen ghosts?
คุณเคยเห็นผีไหม? (ประโยคนี้ไม่ได้หมายความความว่าตอนนี้เขายังเห็นผีอยู่ แต่การถามว่าเคย หรือไม่เคย เราจะใช้ Present Perfect Tense)
- Nobody has ever been there before.
ไม่เคยมีใครอยู่ที่นี่มาก่อน (ไม่เคยมีใครอยู่มาก่อนจนกระทั่งที่ผู้พูดมาถึง)
สำหรับเรื่องของ Present Perfect Tense ส่วนใหญ่จะมีคำว่า since (ตั้งแต่) และ for (เป็นเวลา) อยู่ในประโยคด้วย
สรุปความแตกต่างระหว่าง Past Simple Tense กับ Present Perfect Tense
Tense | Past Simple Tense | Present Perfect Tense |
เกิด/ดับ | เกิดใน อดีต จบใน อดีต | เกิดใน อดีต เกี่ยวเนื่องถึง ปัจจุบัน |
ข้อสังเกตุ | อาจมีการระบุเวลาว่าเมื่อไร | อาจจะระบุหรือไม่ระบุก็ได้ ถ้าระบุจะมี since หรือ for ในประโยคด้วย |
โครงสร้าง | Subject + Verb 2 | Subject + has/have + Verb 3 |
ตัวอย่าง | I lost my key. (but I found it just now.) | I have lost my key. |
I went to Phuket last year. | I have gone to Phuket. | |
He walked to school yesterday | He has walked to school for three years. | |
She drank milk this morning. | She has drunk milk since 1998. | |
We worked hard last week. | We have worked hard. |
เป็นไงครับ คราวนี้เราก็ไม่ต้องหวั่นใจอะไรทั้งนั้นแล้วแหละเวลาเราเจอเพื่อนเก่า อยากพูดอยากระบายความในใจอะไรบอกไปเลย แต่อย่าลืมนะครับว่าอะไรที่จบไปแล้ว (เช่นเรื่องตอนที่เคยไปเที่ยวด้วยกัน) เราต้องใช้ Past Simple Tense แต่อะไรที่เรายังมีผลกับเราจนวันนี้ (เช่นความคิดถึง ความอาลัยอาวรณ์ ที่ยังมี) ให้ใช้ Present Perfect Tense ครับ เอาเป็นว่าลองเอาไปใช้กันดูนะครับ ผมว่าถ้าเราพูดได้ถูก Tense อารมณ์ที่สื่อออกไปมันจะใช่กว่าครับ
ภาษาอังกฤษยิ่งฝึกยิ่งเก่งครับ
คอมเมนต์ได้เลย!